( (( )) )

19 ธันวาคม 2555

โลกใหม่ที่ไร้วิกฤตวัฏจักรฟองสบู่อสังหาฯ และไร้ความยากจน

โลกใหม่ที่ไร้วิกฤตวัฏจักรเศรษฐกิจฟองสบู่อสังหาฯ และไร้ความยากจน เราค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเข้าหาระบบนี้ได้ ซึ่งจะทำให้มนุษย์มีความเท่าเทียมกันดีกว่าปัจจุบัน ผู้คนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงแรงลงทุนตามส่วนกับความสามารถและความพากเพียรของเขา โดยไม่ถูกหักภาษีเงินได้และภาษีการผลิตการค้านานาชนิด ที่ไปลดรายได้และทำให้ของแพง (คือทำให้ผู้ทำงานและผู้ลงทุนยากจนลง ทั้งที่การลงแรงลงทุนผลิตและค้าได้ประโยชน์แก่ทั้งฝ่ายขายและฝ่ายซื้อ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างมากโดยวิธีแบ่งงานกันทำตามความชอบความถนัด ซึ่งรัฐควรส่งเสริม แทนที่จะลงโทษด้วยภาษี)

ส่วนที่จะเก็บภาษีมีเพียงที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ และการก่อความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อม สำหรับที่ดินใช้วิธีค่อยๆ เก็บภาษีเพิ่มขึ้น โดยลดภาษีการลงแรงลงทุนชดเชยกัน ซึ่งในที่สุด สัก 30 ปี ภาษีที่ดินก็เท่ากับค่าเช่าที่ดิน (ไม่รวมอาคารโรงเรือน พืชผล หรือสิ่งปรับปรุงต่างๆ ที่เกิดจากการลงแรงลงทุนที่ก่อผลผลิต) ความได้เปรียบเสียเปรียบกันในการได้ถือครองที่ดินมากน้อยดีเลวต่างกันจะหมดไป

ที่เสนอให้เก็บภาษีที่ดินเพราะที่ดินไม่มีมนุษย์คนใดผลิตขึ้นมา มูลค่าที่ดินเองเกิดมีขึ้นมาได้ก็เพราะการมีชุมชนและกิจกรรมของชุมชนที่ทำให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกสบายรวดเร็วปลอดภัยต่างๆ ในการอยู่อาศัยและประกอบอาชีพ ซึ่งทำให้ที่ดินว่างเปล่าในเมืองใหญ่ค่อยๆ เพิ่มราคาจนกลายเป็นวาละเป็นแสนเป็นล้านขึ้นมา โดยเจ้าของที่ดินไม่ได้ทำอะไรให้แก่ที่ดินนี้

ถ้าภาษีที่ดินต่ำ ก็เกิดการเก็งกำไรกักตุนค้าขายที่ดิน อย่างที่เห็นกัน ไปที่ไหนก้เจอที่ดินรกร้าง แต่มีเจ้าของแล้วอยู่ทั่วไป คนจนหมดโอกาสเป็นเจ้าของที่ดิน ต้องเช่าแพง หรือขาดที่ทำกิน ต้องแย่งกันหางานทำ ค่าแรงถูกกดต่ำ ซ้ำยังมีภาษีที่ทำให้ของแพง ก็ยิ่งเดือดร้อน
ที่สำคัญ การเก็งกำไรซื้อขายที่ดิน (และบ้าน) ทำให้เกิดวิกฤตวัฏจักรเศรษฐกิจฟองสบู่เดือดร้อนกันไปทั่ว

ถ้าภาษีที่ดินสูง ผู้คนก็จะหมดอยากที่จะเก็บที่ดินไว้เกินกว่าที่จะทำประโยชน์ได้คุ้ม ราคาค่าเช่าที่ดินก็จะต่ำลง คนจนจะมีที่ดินได้ง่ายขึ้น ได้ทำกินในที่ดิน การต้องวิ่งง้อของานทำจากนายทุนก็ลด คนยากจนจะมีน้อยลง การสวัสดิการก็จะสามารถทำได้ทั่วถึงดีขึ้น
โลกใหม่นี้จะเกิดได้ด้วยระบบภาษีเดี่ยวจากที่ดินตามแนวของเฮนรี จอร์จ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น: