( (( )) )

18 ธันวาคม 2555

อทินนาทานา เวรมณี (ในปัญหาที่ดิน)

แปลจากย่อคำบรรยายเรื่อง Thou Shalt Not Steal โดย Henry George ต้นตำรับภาษีเดี่ยวจากที่ดินของสหรัฐฯ ณ นครนิวยอร์ก 8 พ.ค. 1887 (จาก http://www.cooperativeindividualism.org/george-henry_thou-shalt-not-steal-1887.html )
มีคนบอกว่าเราจะไม่สามารถทำให้ความยากจนหมดไปได้ เพราะเศรษฐทรัพย์ (wealth) มีไม่มากพอที่จะแจกจ่ายกันไป มีคนบอกว่าถ้าแบ่งเศรษฐทรัพย์ทั้งสิ้นในสหรัฐฯ  จะได้คนละ 800 ดอลลาร์เท่านั้น แต่เราไม่ได้เสนอให้ยกเลิกความยากจนโดยวิธีแบ่งเศรษฐทรัพย์ที่มีอยู่ เราเสนอให้สร้างเศรษฐทรัพย์เพิ่มต่างหาก เราเสนอให้ยกเลิกความยากจนโดยทำให้คนจำนวนมากมายเป็นกองทัพที่กระหายจะได้ทำงานสร้างเศรษฐทรัพย์ แต่ถูกทำให้หมดโอกาสที่จะทำงาน ได้ทำงาน

แล้วก็มีคนบอกเราอีกว่าจะไม่สามารถยกเลิกความยากจนได้ เพราะได้มีความยากจนตลอดมา ดีแล้ว ถ้าได้มีความยากจนตลอดมา ก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้นที่เราต้องเคลื่อนไหวเพื่อยกเลิกความยากจน มันมีมานานมากพอแล้ว เราควรจะเหนื่อยหน่ายความยากจน ขอให้เรากำจัดมันเสีย แต่ข้าพเจ้าปฏิเสธว่าไม่ได้มีความยากจนตลอดมา ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์โลกมาเลยที่จะมีเศรษฐทรัพย์มากมายเช่นนี้  ที่จะมีพลังการผลิตเศรษฐทรัพย์มากมายเช่นนี้ มากมายเสียจนคนที่บอกว่าจะไม่สามารถยกเลิกความยากจนได้ กลับให้เหตุผลแทบในลมหายใจต่อมาว่าเป็นเพราะภาวะการผลิตมากเกินไป (overproduction)  นั่นก็เหมือนว่าพวกเขาบอกว่ามนุษย์ผลิตเศรษฐทรัพย์มากเกินไปจึงทำให้มีคนต้องยากจนลงจำนวนมาก ว่าเพราะสิ่งที่บำบัดความต้องการของมนุษย์ได้ถูกผลิตออกมามากเกินไปแล้ว ผู้คนจึงหางานทำไม่ได้ และสตรีจึงต้องทำงานที่น่าเบื่อและเคร่งเครียด ความยากจนถูกอ้างว่าเป็นเพราะภาวะการผลิตมากเกินไป ความยากจนในท่ามกลางเศรษฐทรัพย์ ความยากจนในท่ามกลางความเรืองปัญญา (enlightenment) ความยากจนขณะที่การค้นคิดประดิษฐ์เครื่องทุ่นแรงนับพันชนิด (ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในโลก) ได้ถูกนำมาช่วยมนุษย์
มีคนบอกเราว่าการกุศลจะช่วยคนจนได้ อย่างไรก็ดี ทุกคนที่รู้จักคิด ทั้งหญิงและชาย ย่อมมองเห็นว่าเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงที่จะถอนรากถอนโคนความยากจนด้วยการกุศล และทุกคนที่จะค้นหาสาเหตุของความป่วยไข้จนถึงรากเหง้าจะพบว่าสิ่งที่จำเป็นมิใช่การกุศล แต่คือความยุติธรรม – การทำให้สถาบันต่างๆ ของมนุษย์สอดคล้องกับกฎนิรันดร์แห่งสิทธิ ผู้ที่โจมตีแนวคิดของเราได้ตั้งพระผู้เป็นเจ้าของตนเองขึ้นมาซึ่งค่อนข้างจะทรงโปรดความยากจน เพราะมันทำให้คนรวยมีโอกาสแสดงความดีและความกรุณาของตน
บรรดากฎแห่งเอกภพนี้คือกฎของพระผู้เป็นเจ้า ทั้งกฎทางสังคมและกฎทางกายภาพ และพระองค์ พระผู้สร้างสรรพสิ่ง ได้ประทานที่ว่างให้เราทุกคน งานสำหรับทุกคน ความอุดมสมบูรณ์สำหรับทุกคน ถ้าปัจจุบันพวกเราต้องอยู่ในสถานที่แออัดจนดูเหมือนว่ามีพลเมืองมากเกินไปในโลก ถ้าปัจจุบันคนหลายพันผู้ยินดีทำงาน หาโอกาสทำงานไม่ได้ ถ้าปัจจุบันคนต้องแย่งกันหางานทำจนค่าจ้างลดลงถึงขั้นทำให้อดตาย ถ้าปัจจุบัน ท่ามกลางเศรษฐทรัพย์ล้นเหลือ ในศูนย์แห่งอารยธรรมต่างๆ ของเรา ยังมีมนุษย์ที่มีสภาพเลวกว่าคนป่าในยามปกติ นั่นมิใช่เพราะพระผู้สร้างทรงตระหนี่ถี่เหนียว แต่เป็นเพียงเพราะความไม่เป็นธรรมของพวกเราเอง
คนในกลุ่มพวกเราผู้แสวงหาความยุติธรรมจะเสนอสิ่งที่มิใช่ของใหม่ พวกเราเสนอให้ยกเลิกความยากจนด้วยวิธีให้ปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนที่เราอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา ด้วยการให้สิทธิที่เป็นธรรมแก่ทุกคน เราเสนอที่จะไม่รบกวนสิทธิที่เป็นธรรมในเศรษฐทรัพย์ เราคือผู้พิทักษ์และผู้เชิดชูสิทธิอันศักดิ์สิทธิ์ในเศรษฐทรัพย์ สิทธิในเศรษฐทรัพย์ซึ่งติดมาอย่างเป็นธรรมกับทุกสิ่งที่แรงงานผลิต สิทธิที่ให้ทุกคนสามารถอ้างอย่างเป็นธรรมในสิ่งที่ตนได้ผลิตขึ้นมาตราบที่เขามิได้ทำร้ายผู้อื่น

"Thou shalt not steal." อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ปัจจุบันเขาตีความศีลที่ยิ่งใหญ่ข้อนี้กันอย่างไร แม้แต่ผู้ที่ทำทีเทศน์คำสั่งสอน? เขาหมายความว่า “อย่าขโมยเงินสองสามดอลลาร์-นั่นอาจเป็นอันตราย แต่ถ้าเจ้าขโมยเงินล้านและหลบพ้นความผิดไปได้ เจ้าจะได้เป็นพลเมืองชั้นที่หนึ่งของเรา”
ยังมีการขโมยรูปแบบอื่นๆ อีก คาราวานขบวนหนึ่งกำลังเดินทางในทะเลทราย พวกโจรบอกกันว่ามีคาราวานที่ร่ำรวยกำลังเดินทางมา และชวนกันไปปล้น โจรอีกคนหนึ่งแนะให้ไปหาบริเวณที่มีแหล่งน้ำเพียงแห่งเดียว แล้วทำกำแพงล้อม อ้างสิทธิเป็นเจ้าของ เมื่อคาราวานมาถึง ก็จะไม่ยอมแบ่งปันน้ำให้ นอกจากคาราวานนั้นจะยอมยกสินค้าทั้งหมดให้โจร

แต่มันเป็นการขโมยต่างชนิดออกไปหรือ? เมื่อบางคนล่วงหน้าไปก่อนประชากร แล้วเข้าครองที่ดินโดยมิได้ทำประโยชน์อันใด เมื่อประชาชนมาตั้งถิ่นฐานและประชากรเพิ่มมากขึ้นก็ไม่ยอมให้ประชากรที่เพิ่มขึ้นเข้าใช้ที่ดิน นอกจากจะยอมจ่ายค่าที่ดินแพงลิบลิ่ว นั่นเป็นการขโมยแบบเดียวกับที่กระทำต่อครอบครัวแรกๆ ของเรา

เด็กที่เกิดใหม่ทุกคนมิใช่ผู้ที่เพิ่มมูลค่าของที่ดินหรือ? ดังนั้นเด็กไม่ควรได้รับส่วนแบ่งจากผลประโยชน์นี้หรือ? และจะไม่เป็นการอยุติธรรมต่อเด็กหรือ เมื่อมีการยอมให้ผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษรับผลประโยชน์นี้ไป?
วิธีทำให้เกิดสิทธิเท่าเทียมกันในที่ดินมิใช่การตัดแบ่งที่ดินให้เป็นแปลงเล็กๆ เท่าๆ กัน แต่พึงใช้วิธีเก็บมูลค่าที่เพิ่มเข้ามาติดอยู่กับที่ดินเอาไปใช้เพื่อการสาธารณะ เรา (ประชาคม) ไม่จำเป็นต้องรบกวนผู้ถือครอง ไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับอาคารหรือสิ่งปรับปรุง (improvement) ของผู้ใด ทั้งหมดที่เราต้องทำมีเพียงยกเลิกภาษีจากสิ่งปรับปรุงทั้งสิ้น จากเศรษฐทรัพย์ทุกรูปแบบ ทั้งหมดที่เราต้องทำมีเพียงเก็บภาษีจากมูลค่าที่ดิน ไม่รวมสิ่งปรับปรุง ดังนั้น ผู้ที่ถือครองที่ดินแปลงหนึ่งจะจ่ายภาษีเท่ากัน ไม่ว่าที่ดินนั้นจะมีหรือไม่มีอาคารก็ตาม
เราสามารถปล่อยให้เจ้าของที่ดินมีกรรมสิทธิ์อยู่ได้ตามเดิม เจ้าของที่ดินอาจจะเรียกตนเองว่าเจ้าของที่ดินนั้น ทั้งหมดที่เราต้องการคือเก็บภาษีมูลค่าที่ดิน [อาจใช้เวลานานหน่อย ค่อยๆ เพิ่มก็ได้ – ความเห็นของผู้แปล]

เรามีการต่อสู้ที่ยาวนานและยากลำบากรออยู่ อาจจะเป็นไปได้ น่าจะเป็น สำหรับพวกเราจำนวนมาก เราอาจไม่ประสบความสำเร็จเลย แต่มีอะไร? มันคือเอกสิทธิ์ที่จะได้ร่วมในการต่อสู้เช่นนี้ ข้อนี้เราอาจรู้ ว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ทั่วโลก ต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งผู้ยุติธรรมและคนดีของทุกยุคสมัยได้เข้าร่วม.
(บทความเรื่องนี้ฉบับเต็มภาษาอังกฤษ ดูได้ที่ http://homepage.ntlworld.com/janusg/hgh/steal.htm )

ไม่มีความคิดเห็น: